ความสำเร็จไม่มีสูตรสำเร็จเป็นหนังสือที่คุณหลี จื้อ อิง แต่ง และ แปลโดย อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี พิมพ์โดยสำนักพิมพ์อมรินทร์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 นี้เอง
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ธรรมดาเลย เพราะเป็นผู้ก่อตั้งกิจการแฟชัน "จิออดาโน" ซึ่งมีชื่อชั้นนำระดับโลก. หลังจากสร้างจิออดาโนแล้ว หลี จื้อ อิง หรือ จิมมี ไหล ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นเจ้าของกิจการสื่อ และ เริ่มเขียนบทความแนะนำการทำธุรกิจ. หนังสือเล่มนี้รวบรวมประสบการณ์และข้อคิดที่เขาได้สะสมไว้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กข้างถนนจนกระทั่งเป็นเจ้าของกิจการที่ร่ำรวย.
เป็นเรื่องยากมากที่จะนำเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้มาสรุปในบล็อกนี้. ชีวิตของ หลี จื้อ อิง เต็มไปด้วยประสบการณ์ล้ำค่าที่ยากจะมีใครเหมือน. ดังนั้นทุกบทจึงเป็นบทเรียนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จ. ความสำเร็จหลายอย่างของเขานั้นผมอาจจะสรุปเป็นสูตร (ทั้ง ๆ ที่เขาปฏิเสธว่าไม่มีสูตร) ได้ว่าเป็น Calculated Success. นั่นก็คือเป็นความสำเร็จที่เขาคำนวณและวางแผนไว้ล่วงหน้า. เมื่อเขายังหนุ่มและตั้งใจจะซื้อโรงงานตัดเสื้อไหมพรม แต่มีเจ้าของกิจการย้อมด้ายไหมพรมอีกคนหนึ่งซึ่งสนใจจะซื้อเหมือนกัน แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อดีไหม และเปรยว่าต้องไปถามนักพรตซึ่งทำนายโชคชะตาแม่นก่อน. คุณหลี จื้อ อิง รีบแอบไปพบนักพรต และขอความร่วมมือให้แนะนำเจ้าของกิจการที่จะแข่งกับเขา ว่าไม่ควรซื้อโรงงานหลังนั้น. เมื่อคู่แข่งของเขาทำตามคำแนะนำ และเขาซื้อโรงงานมาได้ เขาก็ไม่สบายใจไปตลอด.
คุณหลี จื้อ อิง ยังใช้สูตร Calculated Success ของเขาต่อไปอีกหลายครั้ง. ไม่ใช่ด้วยการเล่นไม่ซื่อแบบนี้ แต่ด้วยการหาข้อมูลต่าง ๆ แล้วเตรียมตัวเพื่อให้ตนเองได้เปรียบที่สุดในการแข่งขัน.
เรื่องเหล่านี้มีอะไรบ้าง คงจะต้องอ่านเอาเอง.
ในที่นี้ ผมจะยกแต่เพียงทัศนะของเขามาให้ศึกษาสักหน่อย...
"ยามที่ผมเป็นลูกจ้าง ผมมีเถ้าแก่และมีชื่อเสียงของบริษัทหนุนหลังอยู่ จึงไม่ค่อยรู้สึกว่าคนอื่นเขาระแวงตัวผมสักเท่าไร จนกระทั่งผมออกมาบุกเบิกธุรกิจเอง ฐานะผมเปลี่ยนไป คนอื่นก็มองผมด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมไปด้วย ความสัมพันธ์และความไว้เนื้อเชื่อใจเมื่อครั้งเก่าก่อนหายไปแล้ว หลงเหลือแต่ความระมัดระวังและระแวง หากผมไม่รู้สึกตัวกับสายตาคนที่เปลี่ยนไป ไม่รู้จักปรับตัว ปรับวิสัยทัศน์และการวางตัว เอาแต่ตำหนิสังคมว่าแล้งน้ำใจแล้วละก็ สุดท้ายคือตายสถานเดียว
"ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเห็นผู้อื่นแสดงปฏิกิริยาที่แล้งน้ำใจก็โกรธเกลียด คิดแค้น ด้วยจิตใจที่ผูกพยาบาท โน้มนำให้เกิดการกระทำที่ผิดธรรมเนียม ยอมเสี่ยงกับเรื่องอันตราย นั่นก็ตายสถานเเดยวเช่นกัน"
หนังสือของคุณหลี จื้อ อิง ได้กล่าวถึงเรื่องต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์หลายเรื่อง...นั่นก็เป็นเพราะ...
"การอ่านหนังสือก็เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ไม่ใช่เพื่อค้นหาสูตรสำเร็จของความร่ำรวย ความสำเร็จที่ดูเหมือนเกิดขึ้นในทันทีนั้นความจริงแล้วคือผลลัพธ์ที่ได้มาจากความรู้ที่ซึมซับมาจากหนังสือเล่มนั้นนิด หนังสือเล่มนี้หน่อย หลักการตรงนั้นนิด วิชาตรงนี้หน่อย ผ่านการสั่งสม กลั่นกรอง จนตกผลึก"
แม้คุณหลี จื้อ อิง จะประสบความสำเร็จ แต่เขาก็เตือนว่า...
"ความสำเร็จทำให้จิตวิญญาณของเราลอยขึ้นไปในอวกาศ ทำให้เรามองโลกผ่านวงแหวนรัศมีของความสำเร็จ ผลทื่ได้ก็คือ มองเห็นแต่แสงสว่าง ไม่เห็นความมืด แล้วนั่นจะเป็นสภาพความจริงของธุรกิจและชีวิตจริงได้อย่างไรกัน
"เมื่อไม่มีความมืด ก็ไม่มีข้อบกพร่อง แล้วจะเหลือช่องว่างอะไรให้ก้าวหน้าได้อีก ชีวิตที่ไม่มีความก้าวหน้า มิกลายเป็นความสมบูรณ์แบบเหมือนเช่นความตายหรอกหรือ"
สำหรับในเรื่องความล้มเหลว เขากล่าวว่า...
"คุณเคยได้ยินใครพูดบ้างไหมว่า การที่เขาทำธุรกิจล้มเหลว เป็นเพราะเขาทำธุรกิจไม่เป็น ไม่รู้หลักการ บริหารไม่เก่ง ใช้คนไม่เก่ง คุณต้องไม่เคยได้ยินอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่คุณมักได้ยินคนที่ทำธุรกิจล้มเหลวพูดก็คือ ผิดจังหวะ ผิดเวลา ถูกคนถ่อยให้ร้าย อะไรทำนองนี้แทน
"คนที่พูดจาเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกคิดว่าการทำธุรกิจเป็นเรื่องง่าย มันไม่ควรจะล้มเหลวได้เลย เมื่อตนเองโชคร้ายล้มเหลวก็โทษดวงบ้าง โทษโชคชะตาบ้าง หรือไม่ก็ว่าตนเป็นคนดีเกินไป ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม จึงถูกคนหลอก
"มันเป็นแบบนั้นจริงหรือ แน่นอน การทำธุรกิจก็ต้องพึ่งดวงเหมือนกับเรื่องอื่น ๆ ทุกเรื่อง และมีช่วงจังหวะที่ตกอบดวงซวยได้เหมือนกัน แต่ในเมื่อเราควบคุมดวงชะตาไม่ได้ จะไปหัวเสียกับเรื่องดวงชะตาทำไม เพราะท้ายที่สุดแล้ว การทำธุรกิจไม่ได้อาศัยดวงเพียงอย่างเดียว ตัวกำหนดความสำเร็จหรือล้มเหลวทางธุรกิจในระยะยาวคือความสามารถ"
ผมขอจบท้ายด้วยคำเตือนของเขา...
"บนโลกนี้ไม่มีธุรกิจใดที่ทำสำเร็จแล้วคุณจะได้สั่งเสพสุข
ธุรกิจเป็นของเป็น มันพลิกผันอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นความสำเร็จมีแต่จะนำพาอุปสรรคอื่น ๆ ตามมาเรื่อย ๆ ถ้าอยากให้ธุรกิจประสบความสำเร็จก็ต้องรู้จักครูพักลักจำจากผู้อื่นเสมอ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา การทำธุรกิจเปรียบเสมือนการเล่นกายกรรมเดินไต่ลวดสลิง"
รีบไปหามาอ่านได้แล้วครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น